บ้าน
บัญชีผู้ใช้
พันธมิตรของเรา
ทั่วไป
คาสิโนสด
โป๊กเกอร์
สล็อต
กีฬา
ล็อตโต้
ลงทะเบียน
เข้าสู่ระบบ
"เต้ มงคลกิตติ์" มอบหลักฐานสำคัญดีเอสไอ หวังไขปริศนาคดี "แตงโม" พร้อมตั้งข้อสงสัยมือถือถูกปิด 3 ชั่วโมง
3 ก.พ. 68 - นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หรือ เต้ มงคลกิตติ์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วยหลักฐานสำคัญในการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา ดาราสาวผู้ล่วงลับที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตกเรือสปีดโบ๊ทเมื่อ 3 ปีก่อน ได้เข้าพบ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อนำเสนอ หลักฐานกล้องวงจรปิด 34 จุด และตั้งข้อสงสัยถึงประเด็นที่มือถือของแตงโมถูกปิดไปเป็นเวลานานถึง 3 ชั่วโมง
หลักฐานใหม่จากกล้องวงจรปิด: ปริศนาที่ยังต้องคลี่คลาย
เต้ มงคลกิตติ์ เปิดเผยว่าในหลักฐานที่นำมามอบให้ดีเอสไอในวันนี้ มี กล้องวงจรปิดจาก 34 จุด โดยเฉพาะจากร้านกระแชงมอญที่บันทึกภาพ เจ็ตสกี 4 ลำ ที่ขับนำหน้าเรือสปีดโบ๊ทของแตงโม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการตรวจสอบ จีพีเอสมือถือ ของแตงโมและเจ็ตสกีว่าไปด้วยกันหรือไม่ หากไปด้วยกันก็อาจจะเป็นประเด็นสำคัญที่ต้องสืบสวนต่อ
อีกจุดที่น่าสนใจจากหลักฐานใหม่คือ กล้องวงจรปิดใต้สะพานซังฮี๊ ที่ เห็นชัดว่าไม่มีกลุ่มคนอยู่ท้ายเรือ ซึ่งแตกต่างจากข้อมูลที่ตำรวจนำเสนอจากกล้องวงจรปิดบนสะพานที่ระบุว่ามีคนอยู่ท้ายเรือ โดยยังพบความคลาดเคลื่อนในเวลาและรายละเอียดระหว่างกล้องที่ได้รับมา
มือถือของแตงโม: ปริศนาที่ต้องไข
เต้ มงคลกิตติ์ ยังได้ตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับ มือถือของแตงโม ที่ถูกปิดไปเป็นเวลา 3 ชั่วโมง โดยกล่าวว่า “ในเวลานั้นมือถือไม่ได้อยู่กับตัวของแตงโมเอง ซึ่งมีสถานการณ์เดียวที่ทำให้มือถือถูกปิดคือการไปพบผู้ใหญ่ที่ไม่อยากให้มีการบันทึกเสียงหรือภาพ” ซึ่งอาจเป็นเหตุผลในการปิดมือถือในช่วงเวลาที่หายไป 3 ชั่วโมงนี้
การจำลองเหตุการณ์ตกเรือ: เต้ มงคลกิตติ์ยังได้ย้ำถึงการจำลองเหตุการณ์ตกเรือ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าแม้ แตงโม จะเกาะขอบเรือในระยะเวลาประมาณ 10 วินาที ความเร็วของเรือไม่น่าจะทำให้เกิดบาดแผลจากใบพัดได้ เว้นแต่เรือจะหยุดนิ่งและเปิดเครื่องเพื่อให้ใบพัดหมุน
คดีอาจคลี่คลายในปีนี้
ในส่วนของการสอบสวน เต้ มงคลกิตติ์กล่าวว่า ดีเอสไอ อาจจะสามารถคลี่คลายคดีนี้ได้ภายในปีนี้ เนื่องจากมีหลักฐานใหม่และการสอบสวนที่ยังคงดำเนินต่อไป และอาจนำไปสู่การ ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม หากสามารถนำคดีนี้เข้าสู่กระบวนการคดีพิเศษได้
อุปสรรคในการสู้คดี: แรงกดดันจากอิทธิพล
ในท้ายที่สุด เต้ มงคลกิตติ์ยังได้กล่าวถึงอุปสรรคในการสู้คดีว่า ผู้ที่มีอิทธิพล สามารถจ้างพยานเท็จหรือบิดเบือนข้อมูลได้ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุปสรรคที่ทำให้คดีไม่สามารถเดินหน้าได้รวดเร็ว และตนเองหวังพึ่ง ดีเอสไอ ที่เป็นองค์กรที่สามารถช่วยเปิดเผยความจริงและนำคดีไปสู่การยุติธรรม
