ปู มัณฑนา หิมะทองคำ อดีตนางเอกชื่อดัง ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ว่า เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาประมาณ 14:30 น. เธอได้เดินทางไปร้องขอความเป็นธรรมต่อสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และแจ้งความร้องทุกข์ต่อ ร.ต.ท. เปรม ชำนาญดู รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ ให้ดำเนินคดีกับบุคคลและบริษัทดังต่อไปนี้
- นายมนต์ชัย จงไกรรัตนกุล หรือ ทนายแก้ว (ผู้ต้องหาที่ 1)
- นายภูดิท กำเนิดพลอย หรือ หนุ่ม กรรชัย พิธีกรชื่อดัง (ผู้ต้องหาที่ 2)
- บริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด (ผู้ต้องหาที่ 3) และกับพวก
ในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
ปู มัณฑนาระบุว่า เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2568 ทนายแก้ว (ผู้ต้องหาที่ 1) ได้ใส่ความเธอในขณะออกรายการโหนกระแสของบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด (ผู้ต้องหาที่ 3) ที่เผยแพร่ไปสู่สาธารณะ ทำให้บุคคลที่ 3 เข้าใจว่า ในการว่าจ้างทนายแก้วให้เป็นทนายความของปู มัณฑนา เธอได้สั่งให้ทนายแก้วไป "โบ๊ะบ๊ะ" ด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ ซึ่งเป็นความเท็จ
ปู มัณฑนากล่าวว่า ข้อความดังกล่าวทำให้เธอเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น และถูกเกลียดชัง โดยมีหนุ่ม กรรชัย (ผู้ต้องหาที่ 2) พูดส่งเสริมสนับสนุน และบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด และช่อง 3 มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ข้อความดังกล่าวไปสู่สาธารณะ โดยไม่ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
ปู มัณฑนากล่าวว่า เธอได้รับความเสียหายแก่ชื่อเสียงอย่างมาก เพราะเธอเคยประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างสูง เคยได้รับตำแหน่งขวัญใจช่างภาพสื่อมวลชนและรองนางสาวไทยอันดับ 2 และมีผลงานเป็นนางเอกละครหลังข่าวทางช่อง 7 อย่างต่อเนื่อง สามีของเธอเป็นถึงอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตวังทองหลาง อดีตพิธีกร และอดีตนักแสดงสังกัดดาราวิดีโอทางช่อง 7
ปู มัณฑนากล่าวว่า เหตุผลที่เธอเลิกจ้างทนายแก้ว ไม่ใช่เพราะเธอสั่งให้เขาไปด่าคนนั้นคนนี้ออกสื่อ แต่เป็นเพราะทนายแก้วได้ทำหนังสือขอเลื่อนคดีต่อพนักงานสอบสวนไม่ถูกต้องตรงต่อความเป็นจริง และอาจจะถือได้ว่าเป็นเอกสารเท็จ ซึ่งอาจจะทำให้เธอมีความผิดฐานแจ้งความเท็จ หรืออาจจะถูกออกหมายจับ
นอกจากนี้ ทนายแก้วไม่ยินยอมลงลายมือชื่อในหนังสือขอเลื่อนคดีดังกล่าวในฐานะผู้รับมอบอำนาจ แต่จะให้เธอลงลายมือชื่อ ซึ่งเธอไม่กล้าลงลายมือชื่อเพราะเห็นว่าเป็นความเท็จ
ปู มัณฑนากล่าวว่า เหตุผลที่เธอต้องขอความเป็นธรรมต่อสังคมโดยการโพสต์ข้อความลงสื่อสาธารณะ เพราะเธอถูกทนายแก้วหักเงินจำนวน 50,000 บาท เป็นค่าทำหนังสือที่ไม่ตรงต่อความเป็นจริงดังกล่าว
เธอไม่ได้ต้องการเงินจำนวนดังกล่าวคืน แต่ต้องการเตือนสังคมว่าเวลาว่าจ้างทนายความ ควรที่จะต้องตกลงกันให้ชัดเจนในข้อตกลงต่างๆ และต้องทำเป็นหนังสือสัญญา มิฉะนั้นแล้วก็อาจจะได้รับความเสียหาย
ส่วนเรื่องที่มีการพูดยอมรับกันในขณะออกสื่อว่ามีการหักให้ค่านายหน้านั้น ปู มัณฑนาเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการผิดมารยาททนายความข้อไหนหรือไม่